OPINION

Everything so heavy

สุเทพ ศรีสมุทร์
31 ส.ค. 2560
หากใครที่ชีวิตในวัยเด็กต้องพบเจอกับความรุนแรง โดนทำร้าย หรือโดนรังแก มักจะเกิดการเก็บกด ยิ่งถ้าไม่สามารถจะปรึกษาใครหรือพูดถึงความเจ็บปวดกับใครได้ เมื่อเกิดการเก็บกด บุคลิกของคนๆนั้นจะเปลี่ยนแปลงไป…


               
เราไม่มีทางรู้ได้ว่า เราเข้าสู่สภาวะซึมเศร้าตั้งแต่เมื่อไหร่ คุณจะรู้ตัวอีกทีเมื่อมีอัศวินขี่ม้าขาวคือ จิตแพทย์มองเห็นอาการของคุณ หากคุณเป็นคนหนึ่ง ที่คิดว่า ปัญหาทุกอย่างที่เข้ามาทำไมมันหนักหนาขนาดนี้, จะมีชีวิตอยู่ต่อไปเพื่ออะไร, อารมณ์เปลี่ยนแปลงไป, ความคิดเปลี่ยนไป, ไม่ร่าเริงแจ่มใสเหมือนเมื่อก่อน คุณสามารถยิ้มรับกับมันและกล้าที่จะเดินเข้าหาจิตแพทย์ ให้เขาเข้ามาทำให้ความฝันแย่ๆตลอดทั้งชีวิตของคุณค่อยๆเลือนรางหายไป เขาจะช่วยคุณให้ปลอดภัย…


               
บางทีผมอาจจะพูดได้ว่า ผมกำลังเข้าถึงความรู้สึก Heavy ของใครหลายๆคนที่กำลังเศร้าอยู่ในตอนนี้ หากจะเปรียบชีวิตของผมกับบทเพลงสักเพลง มันคงจะเป็นเพลง Heavy จากวง LinkinPark (RIP Chester Bennington) ประโยคในเพลงที่ร้องว่า “ I’m holding on Why is everything so heavy? ฉันยังคงแบกเอาไว้ ทำไมทุกอย่างถึงได้หนักขนาดนี้” ประโยคนี้บอกได้ว่าผมเจ็บปวดมาอย่างไร ความรุนแรงในครอบครัว, โดนล่วงละเมิดทางเพศ, โดนรังแกในโรงเรียน, ความเกลียดชังจากคนรอบข้าง, ความลำบากในชีวิต นั่นคือสิ่งที่ผมเจอในช่วงอายุ ตั้งแต่จำความได้จนถึงอายุ 19 ปี และหากพูดถึงในปัจจุบัน ใช่ มันยังคงตามหลอกหลอน ผมมั่นใจได้ว่าทุกคนย่อมมีปัญหา แต่ก็แอบอิจฉาคนที่มีความสุขในช่วงวัยเด็กเหมือนกันนะ…
 

                
สิ่งที่ผมกำลังพูดคือ ความหลังฝังใจที่ลืมไม่ได้ มันกำลังทำให้เราตกเป็นทาสของภาวะซึมเศร้า หากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังเจอกับอะไรเช่นนี้ ผมเข้าใจคุณนะ ว่าคุณเองก็อยากลืมมันมาก แต่สมองตัวดีมันดันไม่ลืมเสียอย่างนั้น สำหรับผมสิ่งที่มันยังไม่เคยลืมเลือน คือเมื่อครั้งยังเด็ก โดนผู้ใหญ่คนหนึ่งเอาปืนจ่อหัวผม เป็นภาพที่เด็กๆไม่ควรเห็นเลยเชียวนะ แต่ในทางกลับกัน มันไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกแค้น แต่มันจะเป็นพลังอะไรบางอย่างให้เรากล้าที่จะมีชีวิตอยู่ คุณรู้ไหม ผมเองคิดจะไปหาพระเจ้าหลายครั้งมากในปัจจุบัน ซึ่งทำได้ไม่ยาก แต่เราเข้าใจมันได้ ว่ามันเป็นเรื่องของสารเคมีในสมองที่เรียกว่า ซีโรโทนิน (Serotonin) และนอร์เอพิเนฟริน (Norepinephrine) มันลดต่ำลง ทำให้มีความผิดปกติของเซลล์รับเคมีเหล่านี้ เราถึงได้คิดจะทำแบบนั้น…


               
มีคนมากมายออกมาพูดประสบการณ์หลังเป็นโรคซึมเศร้า หรือเป็นแล้วต้องทำอย่างไร แต่ผมออกมาพูดในฐานะคนที่ยังผ่านไปไม่ได้และกำลังจะเจอกับมัน ผมอยากให้คนที่เจอแบบเดียวกับผม เดินไปพร้อมๆกัน กล้าที่จะให้จิตแพทย์ยื่นมือเข้ามาช่วย หากคุณยังไม่กล้า ลองฟังเพลง Heavy เพลงนี้ ฟังความหมายลึกๆของมัน ว่ามันเจ็บปวดขนาดไหน บางทีมันอาจจะทำให้คุณล้มเลิกความคิดที่ไม่กล้าจะพบจิตแพทย์ออกไปได้ เช่นเดียวกับที่ผมฟังมัน และเมื่อ Beat สุดท้ายของเพลงจบลง ผมคิดว่า “เราจะไม่ปล่อยให้มันหนักไปกว่านี้”
 
 
 
About the Author
สุเทพ ศรีสมุทร์ (โจ)
ชายหนุ่มผู้ที่เคยคิดปลิดชีวิตตัวเอง กลายเป็นคนที่มีชีวิตเพื่อตัวเองและผู้อื่น จากเด็กที่โดนปฏิเสธทุกโอกาสในการแสดงความสามารถ เริ่มสร้างทุกโอกาสให้ตัวเอง ปัจจุบันบทบาทของเขาคือ Creative ใน Johjaionline
 
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
นักจิตวิทยาบอกว่า เราไม่สามารถควบคุม obsessive passion ได้ เพราะเป็น passion ที่ไปขึ้นอยู่กับคนอื่น ...นั่นทำให้ obsessive passion เป็นเรื่องอันตราย เพราะเราเอาความสุข และความหมายในชีวิต ไปมอบให้คนอื่น approve แทนที่จะเป็นตัวเราเอง 
 
สภาวะที่กดดันและการต่อสู้กับอุปสรรคหลายอย่างในชีวิต เป็นเพียงแค่ขั้นตอน “ปิ้งขนมปัง” แต่เพียงเท่านั้น ถ้าเราสามารถผ่านมันไปได้ และไม่กลัวมัน มันจะทำให้เราแข็งแกร่งขึ้นและใช้ชีวิตอย่างเข้มแข็งและภาคภูมิใจ