REVIEW

Wonder Woman

ถึงคราวผู้หญิงออกศึก
6 มิ.ย. 2560
             ภาพยนตร์ Wonder Woman เข้าโรงฉายพร้อมๆ กับสายฝนที่โปรยปราย  แต่ก็ยังได้รับการต้อนรับที่ดีจากคอภาพยนตร์  อาจจะด้วยเสน่ห์ของตัวนำอย่าง แกล  กาด็อต ก็เป็นได้

             จะว่าไป แกล กาด็อต ก็เหมาะสมดีที่จะรับบทไดอาน่าใน Wonder Woman เพราะตัวละครตัวนี้ต้องทั้งสวยและบู๊เก่ง  ซึ่งกาด็อตเองก็เคยขึ้นเวทีประกวดมิสยูนิเวิร์สในฐานะนางงามอิสราเอลมาแล้ว  และก็เคยเข้ารับราชการทหารตามแนวทางของประเทศอิสราเอลมาแล้วเช่นกัน   ดังนั้นเธอจึงครบเครื่องสมกับบทที่ได้รับ
                       
             เรื่อง Wonder Woman  นี้ เจ้าตำรับคือ DC ได้เขียนเป็นการ์ตูนไว้ตั้งแต่ปี 1941 และได้รับความนิยมจากผู้อ่านไม่น้อย ซึ่งหาไม่ง่ายนักที่ ฮีโร่ผู้หญิงจะได้รับความสนใจเช่นนี้ ที่เป็นเช่นนี้เพราะเวลานั้นเป็นช่วงของสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่สหรัฐอเมริกาต้องการปลุกกระแสรักชาติ จึงได้มีการสร้างการ์ตูนที่เป็นฮีโร่ขึ้นมา   ฝั่งค่าย Marvel สร้าง Captain America  จนได้รับความนิยม  ค่าย DC.จึงสร้างฮีโร่เป็นเพศหญิงขึ้นมาบ้าง  ซึ่งก็คือ Wonder Woman  นั่นเอง
                       
             ถึงกระนั้นกว่าจะลุกขึ้นทำเป็นภาพยนตร์ในครั้งนี้   ค่ายหนังก็ต้องวางแผนอย่างดี  รวมทั้งการให้ตัวละครตัวนี้ชิมลางมาก่อนในเรื่อง  Batman  vs  Superman  ซึ่งภาพลักษณ์ของเธอก็สร้างความน่าติดตามได้ไม่น้อยเลย
                     
             เรื่องนี้เล่าถึง เจ้าหญิงไดอาน่า ชาวเผ่านักรบอเมซอน ที่เกิดมาด้วยการสร้างของเทพเจ้าซุส  เพื่อให้มาต่อกรกับ แอรีส ลูกของซุสเช่นกันแต่เป็นเทพด้านสงคราม   เดิมทีเธอโตมาในโลกที่สวยงามของชนชาวอเมซอนที่มีแต่หญิงล้วน  โดยไม่ล่วงรู้ถึงภารกิจนี้  จนกระทั่งวันหนึ่งความลับนี้ก็ถูกเปิดเผย และเมื่อนายทหารหนุ่มชื่อ
สตีฟ เทรเวอร์ (คริส ไพน์)  หนีศัตรูคือทหารนาซีเข้ามาในดินแดนของเธอ  เธอก็พร้อมจะลุกขึ้นมาเพื่อตามหา แอรีส และกำจัดซะ
       
             นั่นเองทำให้เธอต้องจากบ้านเกิดมายังกรุงลอนดอน  และก็ตามเทรเวอร์ไปถึงสมรภูมิรบระดับแนวหน้าซึ่งก็คือการเผชิญหน้ากับกองกำลังของทหารนาซี  เพื่อทำภารกิจของเธอให้สำเร็จ   โดยหารู้ไม่ว่า แอรีส ตัวจริงเป็นใคร  ต่อเมื่อแอรีสเผยตัวออกมาด้วยฤทธิ์เดชระดับเทพเจ้าก็เล่นเอาไดอาน่าเกือบสิ้นท่าเช่นกัน  

             แต่สิ่งที่ช่วยให้เธอมีพลังและเชื่อมั่นก็คือ "ความรัก"  ที่ทำให้โลกยังสวยงามอยู่ได้ในสายตาเธอ

             งานสร้างของภาพยนตร์แนวนี้ต้องมีความโดดเด่นอยู่แล้ว  และเรื่องนี้ก็เปิดโอกาสให้สร้างสรรค์งานสร้างออกมาถึง 3 โทนด้วยกัน  คือ แนวแฟนตาซีในช่วงแรกที่ไดอาน่ายังอยู่ที่เกาะอเมซอน ดูสดใสสวยงามดีแท้ จนมาถึงแนวจริงจังออกเรียลนิดๆ ในช่วงที่มากรุงลอนดอนและกระโดดเข้าสู่สมรภูมิรบที่โทนออกเป็นหนังสงครามเลยทีเดียว
           
             แต่พอแอรีสปรากฏตัวขึ้นพร้อมการแสดงอิทธิฤทธิ์มากมาย  งานสร้างก็เข้าสู่โหมดภาพยนตร์ฮีโร่เต็มตัวที่มีเอฟเฟ็คและ CG. แบบถาโถมโรมรันกันให้สะใจกันเลย
                       
             บทหนังก็ไม่ได้มีอะไรพิเศษโดดเด่น  เดินหน้าตามสูตรที่ควรจะเป็นโดยผสมเอารสนิยมของผู้ชมรุ่นเยาว์ไว้ด้วย  ไม่ได้ดาร์คเหมือน  Batman  vs  Superman  มีแทรกบทตลก กุ๊กกิ๊ก แนมอยู่ทั้งเรื่องในช่วงต้นและกลางเรื่อง  ด้วยความที่มาจากคนละโลก  มุขแบบบ้านนอกเข้ากรุงของไดอาน่าจึงมีให้เห็นอยู่ตลอด  ให้ได้หัวเราะฮึๆ อยู่เป็นระยะ
                       
             หนังตั้งใจขายตัวนำอย่าง แกล กาด็อต จริงๆ  แค่ขยันโคลสใบหน้าสวยๆ ของเธอ  ผู้ชม(ผู้ชาย)ก็มีความสุขแล้ว   ต้องยอมรับว่าหุ่นนางงามและความทะมัดทะแมงแบบทหารเก่าของเธอเมื่อมาสวมชุดนักรบสาวอย่าง Wonder Woman  ก็ถือว่าสอบผ่านมากๆ  และเธอก็เล่นแอคชั่นได้ไม่เลวทีเดียว  ส่วนบทที่ต้องใช้อารมณ์นั้น ยังต้องการการพัฒนาอีกสักหน่อย   คงต้องรอดูภาคต่อไปว่าเธอจะมีอะไรให้เราประทับใจได้ยิ่งขึ้น
                       
             แม้หนังจะมีตัวเอกเป็นผู้หญิง  และเชิดชูความเป็นฮีโร่เสียเหลือเกิน  แต่ก็ไม่ได้ยัดเยียดจนคนดูอึดอัด  ถึงกระนั้นถ้าดูให้ดีก็ยังเห็นกลิ่นอายของความเป็นใหญ่ของเพศชายแฝงเร้นในหนังอยู่ดี
                  
             สรุปว่าหากใครอยากหลบฝนโดยเข้าไปดูหนังสักเรื่อง  หนังเรื่องนี้ก็เป็นตัวเลือกที่ไม่เลว อย่างน้อยก็ดูนางเอกได้เพลินตาแล้วกันน่า.
รีวิว
วัชระ แวววุฒินันท์
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
ชื่อของภาพยนตร์ญี่ปุ่นเรื่องนี้มีว่า What's For Dinner,Mom? บอกเป็นนัยๆ ว่าเป็นเรื่องของ แม่ ลูก และ อาหาร อย่างแน่นอน แต่จะพิเศษอย่างไร.. ต้องมาดูกัน
ถ้าใครได้ดู The Shape of Water โดย Guillermo Del Toro จะรู้กันดีว่าในหนังมีเนื้อหาเกี่ยวกับความรักของนางเอกที่เป็นใบ้กับสัตว์ประหลาดที่เป็นสัตว์ประหลาด