REVIEW

รีวิว Red Sparrow หญิงร้อนพิฆาต

ชนาศิลป์ น้ำวล
9 มี.ค. 2561


ภาพยนต์ Red Sparrow ( เร้ด สแปร์โรว์ : หญิงร้อนพิฆาต ) ภาพยนตร์สายลับที่สร้างจากนวนิยายของ เจสัน แม็ทธิวส์ เจ้าหน้าที่ซีไอเอจริงๆ ผลงานของสุดยอดผู้กำกับอย่าง ฟรานซิส ลอว์เรนซ์จากผู้กำกับ The Hunger Gameและเขียนบทโดย เจสัน แมตธิวส์นี่เป็นการกลับมาร่วมงานกันอีกครั้งระหว่าง เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์ กับ ฟรานซิส หลังจากที่พวกเขาเคยสร้างความโด่งดังระดับโลกให้กับภาพยนตร์เรื่อง The Hunger Game มาแล้ว



Red Sparrow เรื่องราวของ โดมินิก้า อีโกโรว่า (เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์) นักเต้นบัลเลต์สาวสวยชาวรัสเซียที่มีแม่กำลังป่วย แต่เคราะห์ซ้ำกรรมซัดเธอดันประสบอุบัติเหตุระหว่างการแสดงจนขาหักและไม่สามารถทำการแสดงได้อีกต่อไป ชีวิตของเธอกำลังจะตกอับ และนั้นเป็นช่องทางให้อีโกรอฟ (มาทีอัส โชนาร์ท) เจ้าหน้าที่ความมั่นคงของรัสเซีย ผู้เป็นอาแท้ๆของเธอได้ออกอุบายชักชวนให้เธอตกหลุมพรางเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ“สแปร์โรว์”สายลับนักล่อลวงประจำกองกำลังรักษาความปลอดภัยรัสเซียโดมินิก้าต้องเรียนรู้ถึงอุดมการณ์อันยิ่งใหญ่ การจงรักภักดีต่อประเทศ การเสียสละทุกอย่างแม้กระทั่งร่างกายของตัวเองเพื่อใช้เรือนร่างของเธอและเซ็กส์เป็นอาวุธ การฝึกฝนที่ลดทอนความเป็นมนุษย์ แต่เธอยังคงดิ้นรนเพื่อรักษาความเป็นตัวเองไว้ท่ามกลางระบบอันไม่เป็นธรรมของหน่วยงาน
 
 

โดมินิก้า ได้รับภารกิจครั้งใหญ่เพื่อตามหาหนอนบ่อนไส้ในกระทรวงความมั่นคงของรัสเซียและได้หลงเข้าสู่วังวนแห่งความหลงใหลตกหลุมรักกับเจ้าหน้าที่ซีไอเอ นาธานเนล แนช (โจ เอ็ดเกอร์ทอน) หลังจากนั้นเรื่องราวความสนุกและความมันส์ในการวางแผนซ้อนแผนพลิกไปพลิกมาก็ได้เริ่มขึ้นเรื่องนี้ยังร่วมด้วยนักแสดงอีกมากมายอาทิอัส โชนาร์ท, ชาร์ลอต แลมพลิง, แมรี่-หลุยส์ ปาร์กเกอร์ และ เจเรมี่ ไอรอนส์
 

 
ส่วนตัวแอบรู้สึกผิดหวังกับภาพยนตร์เรื่องนี้นิดหน่อยเนื่องจากหวังว่าจะได้เห็นฉากแอ็คชั่นแต่เอาเข้าจริงการเล่าเรื่องออกจะเนือยๆ และยืดเยื้อไปสักหน่อย ตัวหนังจะเน้นเดินเรื่องเชิงจิตวิทยาใช้กลวิธีหลอกล่อพลิกไปพลิกมา แบบแผนซ้อนแผนแล้วซ้อนแผนอีกที ทำให้คนดูต้องคิดหนักว่าตกลงแล้วโดมินิกาจะเลือกอยู่ฝั่งไหนกันแน่ แต่ก็มีบางฉากที่คาดเดาได้ในสิ่งที่จะเกิดขึ้นในหนัง ถึงแม้จะผิดหวังกับฉากแอคชันแต่ก็ได้ตื่นตาตื่นใจกับฉากการทรมานที่ออกจะซาดิสม์อยู่พอสมควรและคงเป็นที่ถูกใจของหนุ่มๆ กับฉากวาบหวิวที่แสนจะเปลืองตัวของ “เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์”ที่มีให้ได้เห็นตลอดทั้งเรื่องถ้าถามความคุ้มค่าของหนังเรื่องนี้สำหรับใครที่ยังลังเลว่าจะไปดูดีไหมอยากจะบอกสั้นๆ ว่าแค่ได้ดูเนื้อหนังมังสาของ “เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์”ก็น่าจะคุ้มแล้วส่วนถ้าใครชอบแนวบู๊แอ็คชั่นก็คงจะผิดหวัง แต่ถ้าชอบหนังซาดิสม์แบบต้องร้องซี๊ด ก็ไปดูเลย



และแน่นอนหนังทุกเรื่องในข้อคิดเราเสมอ วันนี้เลยมี 8 ข้อคิดที่ได้จากการดูหนังเรื่อง“Red Sparrowหญิงร้อนพิฆาต” มาฝากกันด้วย

1.“เซ็กส์” คือ“อำนาจ” อย่างหนึ่งของมนุษย์  ในบางครั้งเราสามารถใช้เซ็กส์เพื่อทำให้เรามีอำนาจเหนือกว่าได้ และนี้คือสิ่งที่นางเอกใช้เพื่อให้มีอำนาจเหนือกว่าคู่ต่อสู้

2.เรื่องของการมองคน หากเราจะพยายามหาว่าเขาต้องการอะไร “เราต้องมองให้ลึกลงไปกว่าสิ่งที่เราเพียงเห็นภายนอก” สิ่งที่เขาแสดงออกมานั้น อาจจะไม่ใช่ความต้องการที่แท้จริงของเขาก็ได้ เช่นคนที่ข่มขืนใครสักคนอาจจะไม่ได้ต้องการแค่เซ็กส์เสมอไป แต่อาจจะต้องการอำนาจหรือความรัก ในเรื่องนางเอกสามารถมองคนออกได้ลึกมากนั้นทำให้เธอเป็นผู้คุมเกมในเรื่องได้อย่างไม่ต้องสงสัย

3.“มารยาของผู้หญิงเป็นสิ่งที่คุณไม่สามารถควบคุมได้” นางเอกเป็นคนที่สามารถใช้มารยาของผู้หญิงได้อย่างโดดเด่น ทำให้เห็นเลยว่ามารยาของผู้หญิงนั้นเป็นสิ่งที่น่ากลัวเพราะคุณควบคุมไม่ได้ ถึงแม้บางครั้งเธอจะแสดงท่าทีเหมือนว่าคุณสามารถควบคุมเธอได้แล้วก็ตาม แต่นั้นอาจจะเป็นมารยาอย่างหนึ่งของเธอ

4.“จงอย่าแน่ใจว่าคุณคือผู้คุมเกม จนกว่าจะถึงจุดจบของเกม” หลายๆ ตัวละครในเรื่องแสดงออกว่าตัวเองคือผู้คุมเกมนี้ แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่เลย เพราะตัวละครเหล่านี้เป็นเพียงหมากตัวหนึ่งของนางเอกเท่านั้น

5.“การยอมไม่ได้หมายความว่าคุณแพ้”การที่เราต้องยอมทน หรือยอมทำอะไรสักอย่างมันอาจจะไม่ได้หมายความว่าคุณแพ้เสมอไป แต่มันอาจจะเป็นการยอมเพื่อทำให้คุณเป็นต่อคู่แข่งและชนะในท้ายที่สุด ในหนังหลายๆ ครั้งที่เราจะได้เห็นนางเอกยอม แต่การยอมของเธอเพื่อที่จะเป็นผู้ที่เหนือกว่าไปอีกก้าว

6.“จงอย่าทำให้คนจนตรอก”อย่าล้อมใครจนเขาต้องจนตรอก เพราะหมาจนตรอกมันจะสู้สุดชีวิตแล้วสุดท้ายอาจจะเป็นคุณเองนั้นแระที่จะตายเอง ในเรื่องเรารู้สึกว่าทางหน่อยงานทำให้เธอต้องกลายเป็นหมาจนตรอก และนั้นทำให้เธอลุกขึ้นมาสู้ และตอบแทนอย่างสาสมจนเกิดเป็นเรื่องราวมันๆ ในหนัง

7.“ครอบครัวไม่ใช่กลุ่มคนที่หวังดีกับเราเสมอไป” คำว่าครวบครัว หรือญาติพี่น้องไม่ได้เป็นเครื่องรับประกันให้เราได้เลย ว่าบุคคลนี้จะเป็นผู้หวังดีกับเรา บางครั้งคนนอกอาจจะหวังดีกว่าเราด้วยซ้ำไป ข้อคิดนี้เห็นได้ชัดจากตัวอาของนางเอก ที่ดูเหมือนจะหวังดีแต่แท้จริงแล้วเห็นนางเอกเป็นเพียงหมากตัวหนึ่งของเขาที่จะช่วยให้เขาประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน

8.“ไม่ว่าอย่างไรจงอย่าลืมความเป็นตัวเองโดยเด็ดขาด” ข้อนี้เป็นสิ่งที่เห็นได้ชัดในตัวนางเอกของเรื่อง ไม่ว่าเธอจะต้องผ่านการฝึกฝนที่หนักหนาแค่ไหน ต้องยอมที่จะปรับตัวและเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อเอาตัวรอดเพียงใด แต่นั้นเป็นเพียงมารยาหญิงที่เธอแสดงออกมา เพราะในทุกๆ การแสดงเป็นบทบาทอื่นๆ ข้างในนั้นเธอยังแฝงความเป็นตัวเองไว้เสมอ
เอาเป็นว่าใครที่อยากรู้ว่าแต่ละข้อคิดมาจากฉากไหนของหนังก็เข้าโรงไปดูกันได้เลย
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
หนังสือฝีมือการเขียนของ ภิญโญ  ไตรสุริยธรรมา เล่มนี้ เป็นหนังสือใหม่ออกเมื่อปลายปี 2559 นี่เอง และคงเป็นที่นิยมเพราะในช่วงแค่ 3 เดือนก็พิมพ์ไปแล้ว 4 ครั้ง ชื่อว่า “FUTURE  ปัญญาอนาคต”  ภิญโญจึงเขียนถึงอนาคตว่าหากเรามีปัญญาที่จะตั้งสติ คิด ไตร่ตรอง รู้จักตนเองแล้ว ก็จะสามารถสร้างอนาคตที่เราเป็นผู้กำหนดเองได้
 
ความดีงามที่สุดในหนังเรื่องนี้ คือบทอันทรงพลังที่ทำให้ตัวละครแต่ละตัวสัมผัสจับต้องได้  ทั้งความรู้สึกอันซับซ้อนสับสนของความเป็นมนุษย์  และการเล่าเรื่องด้วยบทบรรยายจากตัวละครที่เรียบง่ายแต่ลึกซึ้ง ความสวยงามของชีวิตในการข้ามผ่านความเจ็บปวด เพื่อไปสู่ความเข้าใจและการเติบโต