พืชชนิดนี้ มีชื่อเรียกคุ้นหูว่า “ต้นแปะก๊วย” ได้ยินชื่อนี้อาจไม่รู้สึกแปลกใจมาก แต่เชื่อหรือไม่ว่า เจ้าพืชตัวนี้เป็นพืชระดับประวัติศาสตร์เลยทีเดียว เพราะมันสามารถอยู่ได้ด้วยตัวมันเอง มีสารเคมีสำหรับต้านความแห้งแล้งหรือโรคผจญพืชต่างๆได้ และที่น่าทึ่งกว่านั้นคือ มันไม่ได้ถูกตั้งค่าจากโรงงานให้เป็นพืชที่ล้มตายตามอายุขัยจำกัด เหมือนพืชชนิดอื่นๆ ถ้าเปรียบเป็นมนุษย์คือมันไม่แก่ลงนั่นเอง ซึ่งต้นแปะก๊วยปัจจุบันพบเห็นตามป่าธรรมชาติได้น้อย แต่จะพบส่วนมากตามสวนสาธารณะหรือครัวเรือนเป็นเสียส่วนมาก
มีคนเคยกล่าวไว้ว่า “จริงๆแล้วแปะก๊วยมันมีอายุขัยเพิ่มตามกาลเวลา เพียงแต่มันไม่ตายง่ายๆ เพราะมีระบบภายในตัวมันเองที่ป้องกันตัวเองจากความชรา” เขาคือ ริชาร์ด แห่งมหาวิทยาลัย North Texas
คุณลักษณะสำคัญของพืชอัศจรรย์ “แปะก๊วย”
1.เป็นต้นไม้อายุยืนก็จริง แต่ต้องยอมรับเลยว่าโตช้ามาก
2.ในฤดูใบไม้ร่วงเมื่อไหร่ ใบของต้นจะเหลืองอร่ามตา
3.เป็นต้นไม้ระดับตำนานที่มีถิ่นฐานมาจากประเทศจีน ก่อนจะมีเฟรนไชส์สาขาไปทั่วโลก
4.แต่ปัจจุบันจะพบเห็น “แปะก๊วย” ตามป่าธรรมชาติได้น้อยมาก เนื่องจากมีเรื่องธุรกิจเข้ามาเกี่ยวข้อง เลยทำให้แปะก๊วยเริ่มล้มหายตายจากไปตามป่า
5.“แปะก๊วย” ถูกจัดให้เป็นพืชที่เสี่ยงสูญพันธุ์ในอเมริกาและจีน
กระบวนการสำคัญภายในต้น “แปะก๊วย” ที่ควรรู้
ในช่วงอายุขัยของแปะก๊วยตั้งแต่ 15 ปีแรก ไปจนถึง 667 ปีนั้น พืชชนิดนี้จะผลิตสารต้านอนุมูลอิสระ,ฮอร์โมนป้องกันความแห้งแล้ง และต้านจุรินทรีย์ ถ้าหากเราวิจัยจากเซลล์,ใบไม้ และเมล็ดของมันแต่ในความเป็นจริงหากเวลาผ่านไปเป็นร้อยเป็นพันปี ใช่ว่ามันจะยังคงสภาพเดิม เพราะเวลายิ่งผ่านไป สิ่งแวดล้อม,สภาพอากาศก็เปลี่ยนแปลง มันก็จะดูโทรมไปตามกาลเวลาตามสภาพอากาศ แต่เชื่อหรือไม่ว่ามันยังสามารถเติบโตได้อย่างหน้าอัศจรรย์
และนี่คือพันธุ์ไม้ที่มีอายุเก่าแก่ที่สุดในโลกใช่หรือไม่?
คำตอบคือ “ไม่” เพราะยังคงมีพืชที่เก่าแก่กว่านี้อีกหลายเท่าตัว นามว่า Bristlecone pine (สน บริสเซิ้ลโคน) โดยมีอายุเก่าแก่ราว 4,800 ปี
สิ่งที่มีอยู่ในตัวของต้น “แปะก๊วย”
1.ระบบป้องกันตัวเองจากโรคพืชต่างๆ
2.ระบบป้องกันตัวเองจากศัตรูพืชและสิ่งรบกวน
3.ระบบป้องกันตัวเองจากสภาพอากาศเลวร้าย
4.ระบบป้องกันตัวเองจากเหตุไม่คาดฝันที่เสี่ยงต่อต้นไม้
อันที่จริงความอัศจรรย์บางอย่างที่เกิดขึ้นกับโลกไม่ใช่แค่เพียงเรื่องของ “แปะก๊วย” แต่ยังมีความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติมากมายที่ยังคงหลงเหลือให้เห็นกันอยู่ในปัจจุบัน แต่บางสิ่งก็แทบจะไม่มีให้เห็นแล้ว เนื่องด้วยก็ต้องยอมรับว่าเมื่ออารยธรรมมนุษย์เริ่มเจริญขึ้นตามยุคสมัย ก็มีเรื่องของธุรกิจเข้ามาเกี่ยวข้อง ธุรกิจที่เกี่ยวกับการใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติก็มีเยอะถมไป และนี่ก็เป็นเรื่องจริงที่ต้องเข้าใจว่า ธรรมชาติเริ่มเปลี่ยนยุคไปสู่ยุคหินปูน ถ้าหากไม่มีการร่วมด้วยช่วยกัน รักษ์ ธรรมชาติเหล่านี้เอาไว้
ขอบคุณข้อมูลจาก : https://www.bbc.com/news/science-environment-51063469
