นี่คือส่วนหนึ่งจากคำบอกเล่าของ ป้าพยอม วังเค็ม ซึ่งป่วยด้วยโรคมะเร็งลำไส้ระยะสุดท้าย ถึงเหตุการณ์ในวันที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ จากศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เมื่อครั้งที่พระองค์ท่านทรงเสด็จพร้อมหน่วยแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทรา บรมราชชนนี หรือ มูลนิธิ พอ.สว. เพื่อให้การตรวจรักษาประชาชนด้อยโอกาสในท้องถิ่นทุรกันดาร ณ โรงเรียนฝายกวางวิทยาคม อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา เมื่อวันศุกร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2560 ที่ผ่านมา
ในวันนั้นทูลกระหม่อมฟ้าหญิงจุฬาภรณ์ฯ ได้ทรงรับป้าพยอมเป็นคนไข้ในพระราชานุเคราะห์ พร้อมทั้งทรงพระเมตตารับบุตรชายเพียงคนเดียวของป้าพยอมเป็นบุตรบุญธรรม และมีพระดำรัสกับป้าพยอมว่า “จะเลี้ยงดูอย่างดีที่สุด”
พระดำรัสเพียงไม่กี่ประโยคจากทูลกระหม่อมฟ้าหญิงจุฬาภรณ์ฯ ทำให้น้ำตาของป้าพยอมไหลริน ถึงน้ำพระทัยอันเปี่ยมด้วยพระเมตตาที่มีให้กับป้าพยอมและลูก เพราะความปรารถนาเดียวของป้าพยอม คือ การได้มีชีวิตอยู่กับลูกชายให้นานที่สุด เพราะชีวิตนี้เหลือกันอยู่เพียง 2 คน
ในวันที่ทีมงานรายการเจาะใจได้ติดตามถ่ายทำเรื่องราวของป้าพยอมเป็นสารคดีสั้น เพื่อเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสมหามงคลที่ ศาสตราจารย์ ดร. สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ทรงเจริญพระชนมายุครบ 60 พรรษา น้องปลื้ม บุตรชายวัย 12 ปี ของป้าพยอม ได้เข้าเรียนต่อในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ณ โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระศรีนครินทร์ จ.พะเยา ส่วนป้าพยอมได้เข้ารับการรักษาจากทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ณ โรงพยาบาลจุฬาภรณ์
ท่ามกลางความเจ็บปวดทางร่างกายจากอาการของโรค ที่เกิดขึ้นเป็นระยะๆ ตลอดการพูดคุย เรากลับได้เห็นสีหน้าและแววตาของป้าพยอมที่ยังเต็มไปด้วยความปลื้มปิติ เมื่อได้เล่าให้เราฟังถึงวินาทีสำคัญแห่งชีวิตในวันนั้น..
“...วินาทีที่พระองค์ท่านเดินมาถึง ป้าก็คิดเพียงว่าพระองค์ท่านจะให้แค่ไปรักษาต่อชีวิตที่กรุงเทพฯ ซึ่งเท่านั้นเราก็พอใจแล้ว แต่พระองค์ยังถามถึงความทุกข์ ความสุขของป้า ของลูก พอพระองค์ท่านตรัสว่า... จะรับลูกเราไปเป็นบุตรบุญธรรม มันยิ่งใหญ่ และมีค่ามากที่สุดในชีวิตของเราสองแม่ลูก ป้าบอกลูกทุกวันว่า..ลูกเอ๋ย เป็นบุญที่หาที่ไหนไม่ได้แล้ว ตลอดชีวิตนี้แม่ขออย่างเดียว ขอให้ลูกเป็นคนดีตอบแทนบุญคุณพระองค์ท่านให้ได้ ให้เป็นเด็กดี ตั้งใจเรียนหนังสือให้ดีที่สุด..”
-ทีมรายการเจาะใจ-