หนังแอคชั่นย้อนอดีตเล่าเรื่องตำนานของกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ King Arthur ที่เคยสร้างเป็นภาพยนตร์มาแล้วหลายหน ถ้าไม่สร้างตรงๆ ก็เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับกษัตริย์องค์นี้ อย่างเรื่องของ "อัศวินโต๊ะกลม" ที่เป็น Original Idea ของ King Arthur นั่นเอง
เรื่องนี้เป็นตำนานที่เล่ากันมาหลากหลาย จนไม่ทราบว่าอันไหนเป็นเรื่องจริงเท็จเพียงใด
แต่ที่เป็นภาพจำของเรื่องนี้ คือ ภาพของการชักดาบเอ็กซ์คาลิเบอร์ขึ้นมาจากก้อนหิน ซึ่งเรื่องนี้ก็มีเช่นกัน เพราะเป็นเหมือนภาคบังคับ
เรื่องราวเดิมๆ เมื่อนำมาสร้างเป็นหนังยุคนี้ เพื่อเรียกความสนใจจากคอหนังก็ต้องหาวิธีการเล่าเรื่องใหม่ๆ และแน่นอนที่ต้องอุดมไปด้วย CG หรือ Computer Graphic ที่ปรุงแต่งเข้ามาให้ตื่นตาตื่นใจกันตามสไตล์หนังแฟนตาซี
ผู้กำกับคือ กาย ริชชี่ อดีตหวานใจนักร้องสาวมาดอนน่า เขาเคยฝากผลงานการกำกับมาแล้วกับเรื่อง Sherlock Holmes ซึ่งถ้าใครได้ดูเรื่องนี้คงนึกออกของสไตล์หนังของเขาว่าออกแนวหวือหวา ภาพเด่น CG สนุก และเล่าเรื่องแปลกๆ ไวๆ ผู้ชมต้องตามให้ทันเอง
เรื่องนี้สไตล์ก็ไม่ได้ฉีกจากเรื่องที่ว่าเท่าไหร่ แถมด้วยความเป็นตำนานเก่า มีพ่อมด เวทมนตร์เป็นพื้น จึงเอื้อต่อการสร้างสรรค์ความมหัศจรรย์ของ CG เข้าให้อีกด้วย สนุกพี่กายเขาล่ะ
ที่ว่าเล่าเรื่องสไตล์ไวๆ ก็คือ เวลาที่ตัวละครเล่าเหตุการณ์จะไม่ได้เล่าเรียงตามเหตุการณ์จริง แต่ละเล่าพร้อมย้อนภาพอดีตที่เกิดขึ้นแล้วแบบเป็นท่อนๆ กลับไปกลับมา ถ้าใครคิดนานไปนิดนึงก็มีสิทธิ์ตามไม่ทันได้ ต้องมาไล่เรียงทีหลังจึงถึงบางอ้อ แต่ก็น่าจะเหมาะกับคนดูหนังรุ่นใหม่ที่ชอบฉีกๆ ไวๆ แปลกๆ
แม้จะเคยมีการนำมาสร้างเป็นหนัง และเล่าเรื่องแตกต่างกันไปบ้าง แต่ที่ครั้งนี้ต่างไปมากคือการสร้างเรื่องราวให้ ก้อนหินที่ดาบเอ็กซ์คาลิเบอร์ปักอยู่นั้น คือกษัตริย์อูเธอร์ผู้พ่อของ King Arthur นั่นเอง แต่ทำไมต้องมาทรานฟอร์มตัวเองเป็นก้อนหิน ต้องไปชมกันเอง
นักแสดงก็เล่นกันได้แบบสอบผ่าน เพราะก็คงไม่ได้มีอะไรให้ต้องแสดงความสามารถมากมายนัก แม้แต่ตัวเอกของเรื่อง King Arthur ที่รับบทโดย Charlie Hunnam ซึ่งเคยเล่น Pacific Rim ก็ไม่ได้ประทับใจอะไรมากมายแม้จะมีช่วงให้ได้ดราม่าอยู่บ้าง ที่โดดเด่นขึ้นมาหน่อยก็คือพระเอกชื่อดัง Jude Law ที่รับบทลุงผู้ทรยศและคิดการใหญ่ของอาเธอร์เขา ด้วยพลังดาราที่เขามีก็ช่วยให้หนังดูหน้าตาดีขึ้นไม่น้อย
แก่นของเรื่อง King Arthur เป็นการแย่งชิงอำนาจกันของคนที่อยู่ข้างบนของปิรามิด และแน่นอนผู้เดือดร้อนที่สุดก็คือประชาชนที่อยู่ฐานล่าง เมื่อตำนานเล่าขานถึงฮีโร่ที่จะมาปลดแอกจากการถูกกดขี่ของพวกเขาปรากฏขึ้นจริง ก็เกิดการรวมตัวกันขึ้นสู้กับผู้มีอำนาจ
และสุดท้ายก็เตือนสติได้ว่า ไม่มีอำนาจใดอยู่ค้ำฟ้า แม้จะมีกองทัพ เอ๊ย! มีเวทมนตร์อนธการอยู่เบื้องหลังแค่ไหนก็ตาม
เวลา 2 ชั่วโมงกับหนังเรื่องนี้ ก็ดูได้เพลินๆ ไม่ได้ไม่เสีย แต่สำหรับคอหนัง CG ก็คงให้แต้มบวกบ้างล่ะ