
ภาพยนตร์เรื่องนี้ นำเสนอเหตุการณ์จริงของ ทามี โอลด์แฮม หญิงสาวรักอิสระ ผู้ชื่นชอบการท่องเที่ยวเป็นชีวิตจิตใจ เธอได้พบกับ ริชาร์ด ชาร์ป ชายหนุ่มผู้หลงใหลการล่องเรือ ทั้งสองตัดสินใจคบหาดูใจกัน หลังจากนั้น ทั้งคู่ได้รับงานล่องเรือไปยัง แซนดีเอโก แคลิฟอร์เนีย ทว่าระหว่างการเดินทางข้ามมหาสมุทรครั้งนี้ พวกเขาต้องพบกับเฮอร์ริเคนลูกยักษ์ ทำให้เรือเสียหายหนัก ทามีหมดสติชั่วคราว เมื่อฟื้นขึ้นก็เห็นสภาพเรืออันย่อยยับ ส่วนสามีของเธอก็หายตัวไป เธอต้องทำทุกวิถีทางเพื่อช่วยเหลือสามีและเอาชีวิตรอดจากอุบัติภัยแสนเลวร้าย
นำแสดงโดย เชย์ลีน วูดลีย์ (The Fault in Our Stars, เฟรนไชส์ Divergent) และ แซม คาฟลิน (Me Before You, เฟรนไชส์ Hunger Games)
หากสังเกตจากโปสเตอร์หรือชื่อเรื่องแปลไทย คงจินตนาการว่าเป็นหนังดราม่า โรแมนติก
ทว่าภาพยนตร์เรื่องนี้คือการผสมผสานระหว่าง โรแมนติกและหนังแนวเอาชีวิตรอดจากภัยพิบัติ ถึงแม้จะรวมกันได้อย่างไม่น่าเชื่อ แต่อรรถรสที่ได้รับกลับไม่กลมกล่อม เข้าถึงอารมณ์ได้ไม่สุดทาง ไม่ว่าจะเป็นโรแมนติกหรือความตื่นเต้นในการเอาชีวิตรอด
ปัญหาอาจเกิดจากการปูความสัมพันธ์ระหว่างทามี และ ริชาร์ดได้ไม่มากพอ จึงทำให้เชื่อยากว่าทั้งสองรักกันมากเพียงใด ส่วนการเอาชีวิตรอด ยังไม่เห็นความยากลำบากมากนัก จุดวิกฤต(Climax) ยังไม่รุนแรงมากพอให้เอาใจช่วย ปัญหาทั้งหมดนี้จึงสนับสนุนความคิดที่ว่า เรื่องนี้ ยังไปไม่สุดทาง
ถึงแม้จะกล่าวถึงปัญหา หรือความไม่กลมกล่อมมากมายขนาดนี้ แต่เรื่องนี้ไม่ได้แย่หรือชวนหลับ เพราะหนัง ใช้กลวิธีการนำเสนอแบบตัดสลับเหตุการณ์ระหว่างอดีตกับปัจจุบัน ทำให้ชวนติดตาม กระตุ้นต่อมความอยากรู้ว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น
ด้านฉากนั้นสวยเกินบรรยาย เรื่องนี้หยิบเอาธรรมชาติในมุมมองที่ผู้ชมอาจไม่เคยได้เห็น มาถ่ายทอดเชื่อมโยงกับบรรยากาศความโรแมนติก ช่วยให้ดูได้อย่างเพลิดเพลิน ไม่มีเบื่อ หากได้เห็นคู่รักนี้แสดงความรักกันท่ามกลางธรรมชาติอันแสนอบอุ่นแล้ว คุณอาจต้องเผลออิ่มเอมใจไปอย่างไม่รู้ตัว
ที่ขาดไม่ได้คือฟุตเทจของเหตุการณ์จริง ไม่ว่าจะเป็นภาพของทามี ริชาร์ด และเรือที่ทั้งสองใช้ท่องเที่ยวข้ามน้ำข้ามทะเล หนังหยิบมาให้รับชม เพื่อเพิ่มอรรถรส เพิ่มความรู้สึก ช่วยให้อินกับหนังได้ไม่ยาก
อีกหนึ่งจุด คือ “เศร้าหรือไม่ น้ำตาตกหรือเปล่า ?” คำถามนี้อาจติดอยู่ที่ใจใครหลายคน เพราะหนัง
โรแมนติกเช่นนี้ คงมีฉากสะเทือนอารมณ์ พาให้น้ำตาไหลเป็นแน่ หากใครคาดหวังว่าจะเศร้า ร้องไห้ฟูมฟาย ในบรรยากาศหนังอาจส่งเราไปไม่ถึงจุดนั้น แต่อย่างน้อยต้องได้ซึมซับบรรยากาศแห่งความรัก ความเสียใจ ความตื่นเต้นกดดันแน่นอน
อาจไม่ได้ร้องไห้ น้ำตาไหลพราก แต่หัวใจของคุณต้องมีช่วงที่เต้นรัว หากได้รับชมภาพยนตร์เรื่องนี้
หากคุณ ชื่นชอบทะเล ธรรมชาติ ชอบหนังรักโรแมนติก หรือหนังแนวเอาชีวิตรอดนั้น Adrift รักเธอฝ่า
เฮอร์ริเคน ถือเป็นหนึ่งตัวเลือกที่คุณควรรับชม เพื่อเสพมิติใหม่ของการเล่าเรื่อง ได้เห็นภาพธรรมชาติที่หาดูได้ยาก สัมผัสกับความรักของหนุ่มสาวที่เต็มไปด้วยอิสระ และความโศกเศร้าเสียใจที่ตามมาพร้อมกับอุบัติภัยแสนรุนแรง และสิ่งเหล่านี้จะทำให้ประสบการณ์การชมภาพยนตร์รักโรแมนติกของคุณจะเปลี่ยนไป