
ตั้งแต่เปิดม่านโชว์ก็ยิงมุกรัวๆไม่ได้หยุดพักหายใจหายคอ ครูทอมปล่อยพลังเต็มตั้งแต่ต้นยันจบแบบไม่คิดจะกั๊กไว้รอบสอง สิ่งที่มากกว่าความสนุกเป็นส่วนมากและฮากริบบ้างเป็นส่วนน้อย นั่นคือโชว์ที่ทำให้ผู้ชมได้เห็นตัวตนที่แท้จริง ได้รู้จักเขาเพิ่มเติมผ่านเรื่องราวที่เขาเลือกจะมาเล่า และเลือกจะมาเล่น เรียกได้ว่านี่คือโชว์ที่เอาแต่ใจที่สุดโชว์หนึ่งเท่าที่โลกเคยมี อยากเต้นก็เต้น อยากพูดอะไรก็พูด ทั้งร้องทั้งรำทั้งแร็ป อะไรในชีวิตที่ครูทอมอยากทำ อะไรที่ยังไม่ได้ทำแล้วยังค้างคา กลายเป็นปมชีวิต เช่นการอยากไปออกรายการโต้คารมมัธยมศึกษาตั้งแต่เด็ก แต่รายการกลับเลิกไปเสียก่อน ครูทอมก็ unlocked ตัวเองด้วยการไปเชิญคุณกรรณิกา ธรรมเกษร พิธีกรในตำนานของรายการโต้คารมมัธยมศึกษาที่ครูทอมใฝ่ฝันจะไปออก ให้มาเป็นผู้ดำเนินรายการ จะเชิญคนมาโต้ด้วยก็คงกลัวจะธรรมดาไป เลยไปเชิญขอนลอย น้าด๊องก์ กับฉงน จากรายการเจ้าขุนทองที่ครูทอมผูกพัน มาช่วยกันโต้วาทีแข่งกับครูทอมให้วุ่นวายกันไปอีก ไหนจะมีคุณพิซซ่า – ทฤษฎี ณ พัทลุง และโดม เดอะสตาร์ เพื่อนรักของครูทอมมาช่วยกันร้องและเล่นเพลงเนื้อหาเสียดสีตามสไตล์ครูทอมที่แต่งใหม่เพื่องานนี้โดยเฉพาะ ถึงครูทอมจะร้องผิดๆถูกๆ ดูทุลักทุเลเหมือนไม่เคยซ้อมกับเพื่อนมาก่อนก็เถอะ แต่ก็เป็นภาพที่น่ารักจริงใจ และหาดูไม่ได้ที่โชว์อื่นอย่างแน่นอน

ส่วนที่ดีที่สุดของโชว์ครั้งนี้(สำหรับเรา) นั่นก็คือการยกประเด็นการใช้ภาษามาจิกกัด ที่นอกจากจะเรียกเสียงฮากระหึ่มแล้ว คนดูยังแอบได้ความรู้ไปเนียนๆอีก ดูถึงตอนนี้แล้วรู้สึกเลยว่า ครูทอมได้หาแนวทางของตัวเองเจอแล้วอย่างชัดเจน ไม่มีใครจะเล่นมุกเกี่ยวกับภาษาได้สนุกและดีเท่าเขาคนนี้อีกแล้ว ครูทอม “เอาอยู่” ในช่วงนี้ของโชว์ได้อย่างงดงาม ก่อนจะปิดโชว์ด้วยเซอร์ไพรส์ทิ้งท้ายกับการขอแฟนแต่งงานของเพื่อนครูทอม ท่ามกลางผู้ชมคนอื่นๆที่ร่วมเป็นสักขีพยาน(จำเป็น) ที่ก็เรียกเสียงกรี๊ดได้สูสีกับเจ้าของโชว์เลยทีเดียว และเป็นโมเมนต์ปิดท้ายที่ทำให้โชว์นี้น่าจดจำด้วยความประทับใจมากขึ้นไปอีก

ถึงจะยังต้องต่อสู้ฟันฝ่าอีกพอสมควรหากเขาคิดจะเอาดีในเส้นทางนี้ แต่อย่างน้อยทอล์กโชว์ “ทอมขึ้นคูล” ครั้งนี้ก็พิสูจน์บางอย่างให้เห็นอย่างชัดเจน ว่าไม่มีอะไรใหญ่โตเกินไปที่จะเป็นความฝัน ครูทอม-จักรกฤต ทวนกระแสไปปักหมุดหมายใหม่ให้วงการสแตนด์อัพคอมเมดี้ไทยอย่างสวยงาม และเราหวังว่าคงจะมีคนอีกหลายคนต่อจากนี้ จะกล้าลุกขึ้นทำความฝันให้เป็นความจริงเหมือนอย่างที่ครูทอมทำ เชื่อแน่ว่าเมื่อลองได้เดินออกไปก้าวแรกแล้ว เขาไม่มีทางหยุดเดินต่ออย่างแน่นอน และเราก็แทบจะรอไม่ไหว ที่จะชมโชว์ครั้งต่อไปของเขา

โดยที่ครั้งนี้ เขาจะไม่จำเป็นต้องเสียเวลาในช่วงครึ่งชั่วโมงแรกของโชว์ ไปให้การอารัมภบทแนะนำตัวเองอีกต่อไป!