1.อย่าพยายามแกล้งทำเป็นไม่เห็น ไม่รับรู้ ไม่สนใจในโรคนี้ การตอกย้ำกับผู้ป่วย หรือคนที่กำลังเครียดว่า นี่มันไม่ใช่เรื่องใหญ่ หรือกระทั่งบอกกับพวกเขาว่า คิดมากไปเองหรือเปล่า ไม่เพียงแต่จะทำให้สถานการณ์เลวร้ายขึ้น หากยังจะยิ่งเป็นเหมือนหอกหนามทิ่มแทงผู้ป่วย ให้ความเศร้ายิ่งดำดิ่งลงไปอีก เพราะฉะนั้นสิ่งแรกที่ควรทำ คือการยอมรับและเข้าใจในความเจ็บปวด และอาการป่วยทางจิตใจของเขาคนนั้น
2.อย่าเอาแต่คิดว่าจะรักษาเขาให้หาย แต่พยายามให้ความรักและความสนใจกับเขาจะดีกว่า สองสิ่งนี้คือสิ่งที่เขาต้องการมากที่สุด
3.หาจุดสมดุลในการมองโลกในแง่ดีให้เจอ จริงอยู่ที่ว่าการพยายามทำตัวสดใส ทำชีวิตให้มีความสุขตลอดเวลา อาจทำให้ผู้ป่วยมีความสุขได้บ้าง แต่ในบางครั้งมันอาจให้ผลลัพธ์ที่ตรงกันข้าม ในกรณีที่ผู้ป่วยไม่สามารถมีความสุขได้ด้วยตนเอง เขาจะยิ่งรู้สึกแย่ เพราะฉะนั้น การมองโลกในแง่ดีเป็นสิ่งที่ดี แต่อย่าไปบังคับมัน หรือฝืนมันจนเกินไป
4.เปิดโอกาสให้พวกเขาได้พูด ได้ระบายออกมา อย่าพยายามหลีกเลี่ยงพวกเขาเพียงเพราะคุณรู้สึกว่าคุณไม่มีอะไรที่จะพูดกับพวกเขา เพราะในหลายๆครั้ง แค่คุณอยู่ตรงนั้น และคอยรับฟังสิ่งที่พวกเขาอยากระบายในเวลาที่เขาพร้อมที่จะพูดออกมา ก็เป็นสิ่งที่ดีที่สุดแล้ว
5.พยายามเข้าใจความรู้สึกของพวกเขา ถึงแม้ว่าในหลายๆครั้ง มันอาจฟังดูไม่มีเหตุผลเลยก็ตาม คุณต้องมั่นใจว่า คุณรับฟังพวกเขาอย่างให้เกียรติ
6.อย่าทิ้งพวกเขาไปไหน ถึงแม้ว่าคุณอาจรู้สึกสับสน และไม่รู้ว่าจะช่วยอะไรได้ คุณควรพยายามทำให้เขารู้สึกว่า ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ถ้าเขาหันหลับมา คุณยังจะอยู่ตรงนั้นเสมอ
7.ชวนพวกเขาไปไหนมาไหนบ้าง โดยมาก ผู้ป่วยโรคซึมเศร้า มักเก็บตัวเงียบ อยู่ห่างไกลผู้คน การพยายามชวนพวกเขาออกจากบ้านบ้าง ก็เป็นเรื่องที่ควรทำ อาจจะเป็นแค่ออกไปทานมื้ออาหารง่ายๆใกล้บ้าน แค่เพียงสถานที่ใหม่ ที่ไม่ใช่ที่เดิมๆที่พวกเขาคุ้นเคย มันก็เพียงพอแล้ว
8.และสุดท้าย คุณรักคนอื่นได้ คุณก็ต้องรักตัวเองด้วย การที่เราจะช่วยเหลือบุคคลอื่นได้นั้น ตัวเราเองต้องแข็งแรงก่อน เพราะการดูแลผู้ป่วยโรคซึมเศร้านั้นไม่ง่าย ผู้ดูแลต้องหมั่นดูแลตัวเองให้มีสุขภาพทั้งใจและแข็งแรง ไม่จมดิ่งลงไปตามผู้ป่วย มิเช่นนั้นแล้ว ทั้งผู้ดูแลและผู้ถูกดูแลอาจจะแย่กันทั้งหมด
แปลและเรียบเรียงจาก The power of silence โดย Stephanie reeds
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
อดีตนักฟุตบอล มีแนวโน้มจะเสียชีวิตเร็วกว่าคนปกติ ที่ไม่ได้เล่นฟุตบอลถึงสามเท่า
นอกจากมะนาวจะเป็นผลไม้ที่ใช้สำหรับการปรุงอาหารเพื่อเพิ่มรสเปรี้ยว หรือนิยมทำมาเป็นเครื่องดื่ม เพื่อเพิ่ม วิตามินเอ วิตามินซี แคลเซียม ฟอสฟอรัส มะนาวสามารถรักษาโรคได้อีกด้วย
