4 ข้อดีของความเครียดเชิงบวก

ความเครียดมักถูกมองว่าเป็นความรู้สึกแง่ลบแต่เพียงอย่างเดียว ไม่ว่าจะเป็นความเครียดที่เกิดจากการทำงาน ครอบครัว การเงิน และอื่นๆ ที่อาจทำให้เรารู้สึกหมดแรงในแต่ละวัน

Kathleen Gunthert อาจารย์จากคณะจิตวิทยา มหาวิทยาลัยอเมริกันกล่าวว่า ความเครียดมีจุดกำเนิดจากความไม่สมดุลระหว่างสิ่งที่เราต้องทำให้ได้ กับทรัพยากรในมือที่มีอย่างจำกัด เราสามารถแบ่งความเครียดออกได้เป็นสองประเภท หนึ่งคือ Distress หรือความเครียดเชิงลบ เช่นความเครียดจากการอกหัก และ Eustress หรือความเครียดเชิงบวก เช่นความเครียดที่เกิดจากความตื่นเต้นหลังได้งานใหม่

ส่วน Chronic stress หรือ ความเครียดเรื้อรัง นั้นเป็นผลลัพธ์ของความเครียดสะสมที่มาจากองค์ประกอบทั้งภายในและภายนอกจิตใจ และจากการศึกษาขององค์กรจิตวิทยาแห่งอเมริกาพบว่าความเครียดเรื้อรังนั้นส่งผลโดยตรงต่อความผิดปกติเรื่องการรับประทาน ปัญหาผิวพรรณ เช่นผิวที่แห้งกร้าน ไม่สดใส สมองมีขนาดเล็กลง และยังรวมถึงส่งผลกระตุ้นความเครียดอื่นๆให้ตามมาอีกด้วย  
ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า แท้จริงแล้ว ความเครียดเล็กน้อยมักส่งผลต่อชีวิตในแง่ดี หรือกระทั่งความเครียดระดับปานกลางที่ยังอยู่ในระดับที่เราสามารถควบคุมมันได้ หรือที่เรียกว่า Eustress นั้น แท้จริงแล้วช่วยป้องกันความเสียหายจากกระบวนการออกซิเดชันในร่างกาย ซึ่งกระบวนการนี้ส่งผลโดยตรงต่อการป้องกันความแก่และโรคอื่นๆ ยืนยันโดยผลการศึกษาเมื่อปี 2013 ที่ถูกตีพิมพ์ในวารสารออนไลน์ชื่อว่า Psychoneuroendocrinology อีกด้วย

และนี่คือ 4 ข้อดีของความเครียดเชิงบวก หรือความเครียดในระดับที่ควบคุมได้

1.ความเครียดช่วยเพิ่มแรงบันดาลใจ
จริงอยู่ว่าความเครียดในระดับสูงทำให้คุณรู้สึกอึดอัด ทำให้แรงจูงใจ แรงบันดาลใจต่างๆ ในการใช้ชีวิตลดลง แต่ความเครียดเล็กน้อยถึงปานกลางกลับไม่ส่งผลเช่นนั้น เพราะมันช่วยกระตุ้นให้งานต่างๆ เกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น ความเครียดที่มาจาก Deadline ในการทำงานช่วยให้เราจดจ่อกับงานได้มากขึ้นเพราะเวลากำลังจะหมดลง หลายคนไม่สามารถสะสางงานที่คั่งค้างให้เสร็จลงได้หาก Deadline ยังไม่ใกล้จะมาถึง 

2.ความเครียดช่วยให้เรามีความยืดหยุ่นในการใช้ชีวิตและทำให้เราเติบโต
จริงอยู่ว่าความเครียดทำให้เกิดความรู้สึกอึดอัด แต่ก็ปฎิเสธไม่ได้ว่า มันได้สอนให้คนเราเรียนรู้ที่จะแก้ไขปัญหา และสร้างความมั่นใจ รวมถึงทักษะต่างๆ ที่สำคัญต่อการใช้ชีวิตต่อไป อาจารย์ด้านจิตเวชและพฤติกรรมศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยวอชิงตันอย่าง Peter Vitaliano กล่าวว่า ความเครียดแบบนี้จะทำให้คนเรามีความมั่นใจมากขึ้น ทำให้เรารู้สึกถูกคุมคามจากสิ่งต่างๆ รอบตัวน้อยลง และรู้สึกถึงการเป็นผู้ควบคุมสถานการณ์มากขึ้น

Allison Berwald นักสังคมสงเคราะห์ของคลีนิกแห่งหนึ่งที่เมืองนิวยอร์คบอกว่า การใช้ความเครียดในการเผชิญหน้ากับความกลัวหรืออุปสรรคต่างๆ ช่วยให้คุณเรียนรู้ที่จะเผชิญหน้ากับปัญหามากกว่าที่จะหลีกเลี่ยงมัน และสิ่งที่ได้รับกลับมาก็คือประสบการณ์กับเรื่องนั้นๆที่มากขึ้น หากคุณต้องเผชิญกับความเครียดหรือปัญหาคล้ายๆกันอีกในอนาคต คุณก็จะสามารถรับมือได้มากขึ้น

3.ความเครียดช่วยเพิ่มสายสัมพันธ์อันดีกับคนรอบข้าง
ประโยชน์ของความเครียดที่น่าแปลกใจมากที่สุดคือการได้เพิ่มความสัมพันธ์อันดีกับคนใกล้ตัว ซึ่งสิ่งนี้คือสิ่งที่สำคัญที่สุดของการมีสุขภาพดี เราต้องยอมรับว่า การมีปฎิสัมพันธ์อันดีกับคนรอบข้างเช่น เพื่อนร่วมงาน มีส่วนช่วยสร้างเกราะป้องกันด้านความเครียดและโรคที่มาจากความเครียด เพราะเมื่อคนเราได้รับความรักและปรารถนาดีจากบุคคลอื่น เราจะรู้สึกแปลกแยกหรือโดดเดี่ยวน้อยลง การได้พูดคุย ระบายกับเพื่อนร่วมงาน ช่วยกระตุ้นฮอร์โมนแห่งความสุข การได้เปิดใจคุยกันทำให้คนเรารู้สึกดีขึ้นได้ทั้งสองฝ่าย มันคือการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ทั้งสุขและทุกข์เพื่อให้เราได้รู้ว่า เราไม่ได้เศร้าอยู่คนเดียว ถึงแม้จะเป็นความรู้สึกแง่บวกที่มาจากสถานการณ์ที่แสนแย่ก็ตาม

4.ความเครียดคือส่วนสำคัญของชีวิตที่มีความหมาย
ชีวิตที่ปราศจากความเครียดโดยสิ้นเชิงไม่ส่งผลดีใดๆ ตกตัวอย่างเช่น นักศึกษาปริญญาโทในมหาวิทยาลัย ที่ถึงแม้ว่าการเรียนจะแสนเครียด แต่หากผ่านมาได้ และเติบโตเข้าสู่การทำงานจริง ความภูมิใจก็จะเกิดขึ้น และทั้งหมดนี้คือวงจรของการเรียนรู้ที่มีความเครียดเป็นองค์ประกอบ การพยายามขจัดความเครียดออกไปจากชีวิตโดยสิ้นเชิง ก็เท่ากับการละทิ้งความหมายที่แท้จริงของชีวิต และคุณก็อาจไม่รู้สึกภูมิใจกับอะไรเลย
 
แปลและเรียบเรียงจาก http://time.com/5434826/stress-good-health/