เด็กสาวในตอนนั้นปัจจุบันเธอมีอายุ 49 ปี ชื่อ เจนี เธอได้ให้ปากคำกับศาลดำเนินคดีกับพ่อของตัวเอง และเป็นการให้ปากคำที่ยาวนานมากกว่าสองชั่วโมงเต็ม พร้อมทั้งพยานหกรายที่ศาลเองก็ไม่ได้นัดหมายมาก่อนแต่อย่างใด ที่น่าขนลุกคือพยานทั้งหมดอยู่ในร่างของเจนี พยานทั้งหกใช้ร่างของเจนีในการแย่งแสงเข้าร่างเพื่อให้ปากคำ คาดว่านี่คืออาการป่วยโรคหลายบุคลิก ที่เจนีเองอาจเปลี่ยนไปเป็นอีกคนโดยที่ไม่รู้ตัวเสียด้วยซ้ำ
เกิดอะไรกับเจนีและบุคคลประหลาดในร่างของเธอ
สาเหตุ: การเกิดภาวะหลายบุคลิกในตัวเอง ผู้ป่วยอาจเกิดผลพวงจากการถูกทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจมาตั้งแต่เด็ก การถูกกระทำใดๆที่เป็นผลทำให้สภาพจิตใจย่ำแย่สะสม เช่นเดียวกับเจนีที่ถูกทำร้ายมาเป็นเวลายาวนาน นั่นเป็นฝันร้ายของเธอ
ผลที่เกิดขึ้น: เมื่อเจนีรับความเจ็บปวดสะสมมาอย่างมาก ส่งผลให้สภาพทางจิตใจของเธอต้องปรับตัวมันเองเพื่อให้ สามารถอยู่รอดในสถานการณ์ที่เกินจะรับมือได้ จึงเกิดการสร้างตัวตนใหม่ขึ้นมาแทนที่ตัวตนที่แท้จริงของตัวเองที่อ่อนแอ และลืมความเจ็บปวดที่เคยเกิดขึ้นกับตัวตนที่แท้จริง ซึ่งเจนีมีบุคลิกมากถึง 2,500 ในตัวเธอ ซึ่งกรณีนี้เคสผู้ป่วยรายนี้อาจจะเป็นรายแรกของโลก ที่ได้รับการรายงานว่าเป็นโรคหลายบุคลิกจริงและได้ใช้บุคลิกอื่นๆในการให้ปากคำต่อหน้าชั้นศาลอีกด้วย กระทั่งการที่บุคลิกถูกเปลี่ยนไป การให้ปากคำครั้งนั้นถือว่าประสบความสำเร็จมาก เพราะการให้ปากคำสามารถเอาผิดคนร้ายได้ นั่นคือพ่อของเธอในวัย 74 ปี ชื่อว่า ริชาร์ด ถูกศาลตัดสินจำคุกนาน 45 ปี
เส้นทางการถูกทำร้ายของเจนี
- ขณะที่เธอมีอายุย่าง 4 ขวบ ริชาร์ดเริ่มลงมือทำร้ายเธอ
- ช่วงระหว่างการย้ายบ้านของครอบครัวเจนี ริชาร์ดเริ่มมีพฤติกรรมรุนแรงมากขึ้นในการทำร้ายลูกสาวตัวเอง
- เจนีให้การสำคัญว่า “พ่อเธอกระทำลงไปโดยผ่านการไตร่ตรองดีแล้ว มีการวางแผนอย่างเป็นลำดับ และมีความสุขทุกครั้งที่ได้ลงมือกระทำลงไป
- พ่อของเธอมีการข่มขู่จะฆ่าแม่และพี่น้องของเจนี เพื่อล้างสมองให้เชื่อและไม่ให้นึกถึงเรื่องที่ตนโดนทำร้าย และไม่บอกต่อเรื่องนี้กับคนอื่น
- พ่อของเจนีบุกรุกเข้าไปในส่วนจิตใจให้เธอรู้สึกไร้ซึ่งความปลอดภัย แม้กระทั่งความคิดของเธอก็ถูกควบคุม ทุกครั้งที่เธอพยายามลืมความเจ็บปวดที่เคยเกิด เธอจะนึกถึงเพลงในใจของวง Culture ชื่อเพลงแปลเป็นไทยว่า “เธออยากทำร้ายฉันจริงๆใช่ไหม?”
- ริชาร์ดสั่งห้ามลูกสาวตัวเองทำกิจกรรมต่างๆร่วมกับเพื่อนและทางโรงเรียน เพื่อหลีกเลี่ยงการจับพิรุธที่เธอถูกทำร้าย เจนีจึงต้องใช้ชีวิตแบบเงียบมากในโรงเรียน
- ริชาร์ดไม่ยอมพาเธอไปโรงพยาบาลทุกครั้งหลังการทำร้ายเธอ ทำให้เป็นอาการบาดเจ็บทางร่างกายที่เกิดการสะสม ทำให้เธอบาดเจ็บทั้ง กระดูกก้นกบ, ทวารหนัก, ลำไส้ และกราม
- แม้แต่แม่ของเจนีเองก็ไม่ทราบเรื่องต่างๆที่ริชาร์ดทำกับเจนี และเธอก็ยังถูกทรมานมาเรื่อยไปจนกระทั่งเข้า 11 ขวบ
สาระสำคัญของภาวะหลายบุคลิก
- โรคหลายบุคลิกเป็นผลมาจากการถูกทำร้ายอย่างหนักหน่วงในวัยเด็ก ในแวดล้อมที่ควรจะปลอดภัยแต่กลับน่ากลัว เช่น โรงเรียน, บ้าน
- ยิ่งเป็นเด็กอายุน้อยเท่าไหร่ หากยิ่งถูกทำร้าย จะเสี่ยงเป็นโรคหลายบุคลิกมากเป็นพิเศษ
ตัวอย่างจาก 2,500 บุคลิกของเจนี
- ตัวตนชื่อ ซิมโฟนี: เป็นเด็กหญิงวัย 4 ขวบชอบพูดเสียงแหลมและพูดเร็ว
- ตัวตนชื่อ มัสเซิล: เด็กวัยรุ่นเพศชาย รูปร่างสูงโปร่ง ชอบสวมเสื้อแขนสั้นโชว์กล้าม มักจะปรากฏตัวเมื่อมีการทำร้าย เจนีหรือซิมโฟนี และเป็นคนใจเย็น
- ตัวตนชื่อ ลินดา: เด็กหญิง ชอบสวมกระโปรงแบบบาน ย้อนยุคย้อนสมัย แต่ฉลาดและดูงดงาม จะปรากฏตัวเมื่อ มีปัญหาที่โรงเรียนหรือกับกลุ่มเพื่อนๆ
เหตุใดที่ศาลจึงฟังคำจากบุคลิกอื่นๆของเจนี
เหตุผลเพราะมีนักจิตวิทยาได้ให้คำแนะนำกับศาลถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับเจนี และความรู้เรื่องโรคหลายบุคลิก และสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นจากการให้ปากคำไม่ว่าจะจากบุคลิกไหน ทั้งหมดนี้คือความทรงจำของเธอที่เก็บมาเป็นอย่างดีเหมือนเมมโมรี่ โดยไม่ได้ถูกลบออกไปจากความทรงจำ
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่โดนทำร้ายในแบบเดียวกับเจนี โปรดกล้าที่จะไปหาตำรวจและเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้พวกเขาฟัง พวกเขาจะฟังคุณ และสำคัญความเจ็บทางใจและร่างกายของคุณจะไม่เป็นปัญหาต่อกระบวนการทางกฎหมายอีกต่อไป
ขอบคุณข้อมูลจาก : https://www.bbc.com/news/world-australia-49589160