ON LOOKER

ตำนานรักนิรันดร์โครงกระดูกโมเดนา พบล่าสุดเป็นเพศชายทั้งคู่

16 ก.ย. 2562
หรือนี่จะเป็นคู่รัก LGBT ในยุค 1,500 ปีก่อน? หรือในยุคนั้นมีการยอมรับรักเพศเดียวกันแล้ว? เกิดคำถามมากมายในตอนนี้กับคู่รักโมเดนาที่ถูกกล่าวขานกันมาอย่างยาวนาน คือโครงกระดูกของมนุษย์ยุคดึกดำบรรพ์ที่จับมือกุมกันไว้ อายุราว 1,500 ปี ด้วยความโรแมนติกอย่างคาดไม่ถึงที่ถูกกล่าวขานกันมาอย่างยาวนาน ว่าโครงกระดูกทั้งคู่คือตำนานรักชั่วนิรันดร มีนักวิจัยค้นพบโครงกระดูกของเขาทั้งสอง เมื่อปี 2009 แต่ที่น่าแปลกใจเข้าไปอีก คือ ล่าสุดมีรายงานว่า โครงกระดูกของเขาทั้งสอง เป็นเพศชายทั้งคู่!



แท้ที่จริงแล้วในช่วงที่มีการขุดค้นพบในตอนแรก หลายคนต่างขนานนามเรื่องราวของคู่รักโมเดนา เพราะทุกคนเข้าใจไปแบบนั้นว่า การค้นพบครั้งนั้นที่เมืองโมเดนาทางตอนเหนือของอิตาลีเมื่อปี 2009 เป็นโครงกระดูกของคู่สามีภรรยาที่รักกันจนวาระสุดท้าย กุมมือกันจากโลกนี้ไปอย่างสงบและผ่านไปกว่า 1,500 ปี มือที่กุมกันไว้นั้นก็ยังไม่คลายออกจากกัน



ทำไมการค้นพบในช่วงปี 2009 จึงยังระบุเพศไม่ได้
เพราะด้วยเทคโนโลยีทางการวิจัยและพิสูจน์ในยุคนั้นยังไม่ก้าวล้ำเท่าปัจจุบัน และสภาพของโครงกระดูกก็อยู่ในสภาพไม่สมบูรณ์ด้วย จึงไม่สามารถระบุเพศได้เลย แต่ยุคปัจจุบันวิวัฒนาการที่ก้าวหน้าของมนุษย์ ช่วยให้มีเทคโนโลยีใหม่ซึ่งเป็นเทคโนโลยีจากทีมวิจัยมหาวิทยาลัยโบโลญญ่า เทคโนโลยีชื่อว่า Enamel เป็นเทคโนโลยีตรวจสอบสภาพทางเพศโดยใช้โปรตีนจากเคลือบฟัน



ทำให้ล่าสุดผลวิจัยก็ออกมาคอนเฟิร์มเป็นที่แน่ชัด จากตำนานโครงกระดูกที่โด่งดังเป็นสัญลักษณ์ที่บ่งบอกถึงความรักที่เป็นอมตะ ในช่วงจักรวรรดิโรมัน คนต่างพูดกันว่า “นี่คือสัญลักษณ์แห่งความรักตราบชั่วนิรันดร์” แต่บทสรุปของตำนานรักเรื่องนี้ คือ ทั้งสองเป็นผู้ชายทั้งคู่

แต่ก็ยังด่วนสรุปไปไม่ได้ว่า ทั้งคู่เป็น LGBT หรือไม่ เพราะโครงกระดูกของชายวัยกลางคนทั้งสองนี้ เป็นการจงใจให้ทั้งสองนอนและอยู่ในท่ากุมมือนั้น แต่ก็ไม่สามารถระบุความสัมพันธ์ของทั้งคู่ได้ หนึ่งในทีมวิจัยออกมาให้ความเห็นว่า จริงๆแล้วมีข้อสันนิษฐานเป็นไปได้ว่าความสัมพันธ์ของทั้งสองนี้ อาจเป็นได้ทั้ง น้องชาย,พี่ชาย,ลูกพี่ลูกน้อง หรือเพื่อนรักที่เป็นทหารและเสียชีวิตลงเพราะสงคราม

นอกจากโครงกระดูกโมเดนาแล้ว ยังมีโครงกระดูกอื่นที่ถูกค้นพบ อีก 11 โครง เนื่องจากที่บริเวณนั้นเป็นสุสานโบราณตอนปลาย ช่วงปี คริสต์ศักราชที่ 4-6 บางโครงกระดูกถูกระบุไว้ว่ามีร่องรอยของการบาดเจ็บอย่างสาหัส ทำให้คาดไปว่านี่อาจเป็นร่องรอยการเสียชีวิตจากสงครามและการสู้รบ แต่ไม่ว่าการค้นพบครั้งใหม่ของตำนานโมเดนาในครั้งนี้ จะทำให้หลายฝ่ายคิดว่าพวกเขาเป็นคู่รัก LGBT,จะเป็นญาติพี่น้องกัน หรือเป็นเพื่อนรักร่วมรบในสงครามหรือไม่ ท้ายที่สุดแล้วการค้นพบล่าสุดถือว่าเป็นประโยชน์อย่างมากที่ทำให้เราสามารถศึกษาและเข้าใจถึงธรรมเนียมและพิธีกรรมการปฏิบัติในการฝังศพ ของผู้คนในยุคนั้น

ขอบคุณข้อมูลจาก : https://www.bbc.com/news/world-europe-49672855
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
ประสบการณ์ชีวิตต้องมาพร้อมกับรอยตีนกา...แม้อายุขึ้นเลขสามแล้ว...แต่ชีวิตแฮปปี้มาก อิอิ
 
มีผู้หญิงรายหนึ่งได้พยายามที่จะนำเอาคอนแทคเลนส์ออก หลังจากที่คอนแทคเลนส์เข้าไปติดอยู่ใต้เปลือกตาชั้นบนของเธอกว่า 28 ปี โดยที่เธอไม่รู้ตัวเลยแม้แต่น้อย